ความรู้สึกที่ได้รับรางวัล

ขอบคุณบริษัทแอมเวย์ประเทศไทยที่เป็นหุ้นส่วนที่ดีที่สุดในชีวิต และขอบคุณ
สมาคมการขายตรงไทย ที่ให้เกียรติให้ความเชื่อมั่นให้ความไว้วางใจเราใน
การได้รับรางวัลเกียรติยศอันทรงคุณค่าเช่นนี้ กับรางวัลที่เป็นที่สุดของผู้ที่ทำ
ธุรกิจขายตรงในประเทศไทย รู้สึกดีใจและภูมิใจกับรางวัลนี้มาก เพราะนั่น
หมายถึงเราได้เป็นตัวแทนและเป็นผลงานของทุกท่านที่สร้างเรามา ไม่ว่าจะ
เป็นคุณพ่อคุณแม่ ครูบาอาจารย์ อัพไลน์ทุกระดับชั้น รวมถึงบริษัทแอมเวย์
ประเทศไทย คณะผู้บริหารและสต๊าฟบริษัททุกท่าน และจะตั้งใจตอบแทน
พระคุณทุกท่าน ที่สร้างเรามาด้วย การเป็นผลงาน และเป็นแบบอย่างที่ดี
ต่อไป

ความประทับใจต่อธุรกิจ

ธุรกิจแอมเวย์เป็นอาชีพที่ตอบโจทย์ชีวิตของเรา เรามีหลักในการดำเนินชีวิต
คือต้องการที่จะมีความสุขและความสำเร็จควบคู่กันไป ซึ่งมีทั้งหมด 8 ข้อ คือ

เริ่มแรกจากเราประทับใจแต่ต่อมาเราค้นพบว่าเรารักธุรกิจนี้มาก เพราะความรัก
ทำให้เราทำธุรกิจนี้อย่างจริงใจและมีความสุขมาก
1) เราสองคนรักในคุณธรรมของผู้สถาปนาบริษัทแอมเวย์ ท่านริช เดอโวส
และเจย์ แวน แอนเดล ซึ่งมีปรัชญาในการดำเนินธุรกิจที่ทำให้เราตัดสินใจทำ
ธุรกิจนี้ อย่างจริงจัง คือ อยากให้ชายหญิงทั่วโลกได้ใช้สินค้าที่ดีและมี
คุณภาพ และอยากให้ชายหญิงทั่วโลก มีธุรกิจเป็นของตัวเอง
2) เรารักบริษัทแอมเวย์ประเทศไทยที่เป็นหุ้นส่วนที่ดีที่สุด ที่ทำให้เราเปลี่ยน
แปลงวิถีชีวิต ขอบพระคุณคุณกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการบริษัท
แอมเวย์ประเทศไทย คณะผู้บริหารทุกท่าน รวมถึงสต๊าฟทุกท่านที่ให้การ
สนับสนุนเราสองคนตลอดมา
3) เรารักสินค้า สินค้าแอมเวย์มีความปลอดภัยสูงสุดคุณภาพสูงสุดกับเรา และ
คนที่เรารักและยังมีคุณธรรมกับผู้บริโภคและ สิ่งแวดล้อม
4) เรารักความยุติธรรมในธุรกิจนี้ในแผนธุรกิจ
5) เรารักอัพไลน์ รักดาวน์ไลน์ และอยากให้กัลยาณมิตรของเราได้ประสบความ
สำเร็จในชีวิตเหมือนเรา
6) เรารักการท่องเที่ยวของแอมเวย์ ทำให้เราได้เที่ยวแบบวีไอพีมามากกว่า
30 ประเทศทั่วโลก
7) เรารักความสำเร็จในธุรกิจแอมเวย์ นั่นคือ อิสรภาพ ครอบครัว ความหวัง
รางวัล เราได้วิถีชีวิตครบทุกมิติในวันนี้เพราะธุรกิจแอมเวย์

กลยุทธ์ที่นำมาซึ่งความสำเร็จ

สิ่งที่ทำให้สำเร็จได้ทุกวันนี้ เราได้เริ่มสร้างขึ้นมาพร้อมๆ กัน 4 เรื่องคือ
1) ขอบคุณแนวคิดในการดำเนินธุรกิจที่ถูกต้อง
2) ขอบคุณระบบการสร้างธุรกิจ
3) ขอบคุณวัฒนธรรมองค์กรที่ดีงาม
4) ขอบคุณทีมที่เปรียบเหมือนครอบครัวเดียวกันที่จะใช้ชีวิตด้วยกันตลอดไป

เรื่องราวความสำเร็จ

วรภพ ผมเติบโตมาในครอบครัวที่มีคุณพ่อคุณแม่รับราชการ แต่ด้วยรายจ่ายที่
สูงขึ้นทำให้คุณพ่อคุณแม่เริ่มหาธุรกิจทำเพิ่ม จนผ่านไป 7 ปี ครอบครัวเรามี
โรงงานถึงสามกิจการ ทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้นมาก ในวันที่ดีอยู่แล้วคุณพ่อกลับ
รับธุรกิจที่สี่เข้ามาคือธุรกิจแอมเวย์ ด้วยคำพูดสั้นๆที่ว่าถ้าแอมเวย์ไม่ดีจริงนัก
ธุรกิจอย่างพ่อไม่ทำให้เสียเวลาหรอก สิ่งที่แอมเวย์ให้คือสิ่งสำคัญที่ธุรกิจของ
เราขาดนั่นคือ พ่อต้องการมีมรดกทางรายได้ที่มั่นคงไว้ให้ลูกๆ แม้วันที่พ่อแม่
ไม่อยู่แล้ว ตอนนั้นผมไม่เข้าใจ จนผ่านไปอีกสิบปี ที่ผมเรียนจบ
วิศวกรรมศาสตร์ แล้วสามารถหาเงินได้ด้วยตัวเองจึงเข้าใจว่าโลกเปลี่ยนไป
งานเปลี่ยนไป ที่สำคัญวิธีการหาเงินเปลี่ยนไป ในขณะที่หลายๆ ธุรกิจ รวมทั้ง
ธุรกิจครอบครัวผมเข้าสู่ภาวะวิกฤต แต่ธุรกิจแอมเวย์กลับเติบโตสวนกระแส ผม
จึงเข้าใจว่าการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนเป็นอย่างไร ผมจึงตัดสินใจทำ
ธุรกิจแอมเวย์อย่างจริงจังตั้งแต่อายุ 24 ใช้เวลา 10 ปี ผมก็ประสบความ
สำเร็จเป็นนักธุรกิจแอมเวย์ระดับเพชร

หมอยุ้ย ยุ้ยเข้ามาตอนเป็นนักศึกษาแพทย์ปีที่หก จากการที่ประทับใจสินค้า
มาก และค่อยๆ เปิดใจกับธุรกิจนี้ค่ะ เดิมไม่เห็นด้วยอย่างมากที่พี่เนททำ
เพราะเป็นคนพูดไม่เก่งไม่ชอบงานขายไม่ชอบงานลักษณะนี้ บวกกับคุณพ่อ
เป็นอาจารย์แพทย์ คุณแม่เป็นพยาบาล และยุ้ยตั้งใจจะเรียนต่อเฉพาะทาง เลย
ไม่ค่อยได้สนใจธุรกิจเท่าไหร่ แต่พอพี่เนทได้คุยถึงเรื่องของชีวิตให้ฟัง ว่า
ต้องการใช้ชีวิตแบบไหน ยุ้ยก็เลยลองพิจารณาดูว่าปลายทางของอาชีพที่เรา
ทำเป็นอย่างไร และปลายทางของผู้ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจแอมเวย์เป็น
อย่างไร ทำให้มองว่าสิ่งที่ยุ้ยต้องการในชีวิตมากๆ คือเวลาและมีวิถีชีวิตที่ดี
ครบทุกด้าน มีความสุขกับคนที่เรารัก ได้ตอบแทนผู้มีพระคุณในชีวิตได้เต็มที่
และทันเวลา ซึ่งอาชีพแพทย์ให้ได้ไม่เต็มที่นัก และที่สำคัญถ้าหยุดทำจะมี
เวลาก็จริงแต่ขาดรายได้ แต่ถ้าสำเร็จในระดับเพชรขึ้นไปจะมีรายได้มีเวลามี
ความมั่นคงและหลักประกันในชีวิต ทำให้สุขภาพกายและใจแข็งแรง และ
สามารถช่วยเหลือผู้อื่นให้ได้แบบเรา โดยไม่ต้องรักษาด้วยยาค่ะ ยุ้ยจึงตัดสิน
ใจทำธุรกิจแอมเวย์อย่างจริงจังตั้งแต่อายุ 22 ค่ะ

คติประจำใจ

สติ จำเป็นในที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อ

ฝากคิด...ปิดท้าย