ข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะ
รู้จักเส้นผมของคุณ
ตามหลักชีววิทยาเส้นผม ผมแต่ละเส้นประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก
เกล็ดผม
เกล็ดผมคือชั้นนอกสุดของเส้นผม
ประกอบขึ้นจากเซลล์เคราตินที่เรียงซ้อนกัน
หลายชั้น หน้าที่หลักของเกล็ดผมคือปกป้อง
เนื้อผมจากการถูกทำลาย สภาวะของเกล็ดผม
มีผลต่อความแข็งแรงของเส้นผม เนื่องจาก
เกล็ดผม เป็นส่วนที่เรามองเห็นและสัมผัส
และเป็นตัวกำหนดลักษณะของเส้นผม เช่น
ความเรียบลื่น ความเงางาม และความยาก
ง่ายในการจัดทรง เมื่อเกล็ดผมถูกทำลาย
ผมจะดูไม่เงางาม แห้งเสีย และชี้ฟู เกล็ดผม
สุขภาพดี จึงเป็นหัวใจสำคัญสู่การมีผมสวย
เนื้อผม
ภายใต้ชั้นเกล็ดผมคือเนื้อผม ซึ่งเป็น
องค์ประกอบส่วนใหญ่ของเส้นผม
เนื้อผมประกอบด้วยเส้นใยเคราติน
สายยาวหลายสายที่ยึดเกาะกันด้วย
กาวธรรมชาติของเส้นผม ที่เรียกว่า
เซลล์เมมเบรน คอมเพล็กซ์ (Cell membrane
complex) ความแข็งแรง ความยืดหยุ่น
และผิวสัมผัสของเส้นผมถูกกำหนด
โดยเนื้อผม นอกจากนี้ ในเนื้อผมยังมีเม็ดสี
เมลานิน ซึ่งเป็นตัวกำหนดสีผม ถ้าเนื้อผม
ถูกทำลาย เส้นผมจะอ่อนแอ และเปราะบาง
ทำให้ขาดร่วงได้ง่ายและการเกิดผมแตกปลาย
แกนผม
ที่ใจกลางของเส้นผมคือแกนผม ซึ่งมี
โครงสร้างเปิดเป็นรูกลวง แต่อาจไม่ได้มีอยู่
ตลอดความยาวของเส้นผม โครงสร้าง
ที่เป็นรูกลวง เพิ่มความหนาให้กับผม
องค์ประกอบของเส้นผม
เส้นผมเกิดจากส่วนประกอบหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีหน้าที่เฉพาะ
  • โปรตีน
องค์ประกอบหลักของผมคือโปรตีนเคราติน โปรตีน คือ โพลีเมอร์ขนาดใหญ่ที่ประกอบขึ้นจากกรดอะมิโน ซึ่งจะบ่งบอกถึง ความแข็งแรงโดยรวมของเส้นผม
  • น้ำ
เมื่อเส้นผมมีองค์ประกอบน้ำสูง เส้นผมจะยิ่งมีความยืดหยุ่นมากขึ้นเช่นกัน
  • เมลานิน
เป็นตัวกำหนดสีผม ผมขาวเกิดจากการผลิตเม็ดสีเมลานินลดลงหรือหยุดการผลิตเม็ดสีเมลานิน
  • ลิพิด (ไขมัน)
เปรียบเสมือน “กาวเชื่อม” ที่ยึดผมเข้าไว้ด้วยกัน ลิพิดเป็นเกราะป้องกันการสูญเสียความชื้นจากเส้นผม และช่วยให้เกล็ดผมต้านทานต่อการเสียดสีที่ทำร้ายเส้นผม
ผมยาวขึ้นได้อย่างไร
เส้นผมเป็นสิ่งไม่มีชีวิต เกิดจากการรวมกันของเซลล์เคราตินที่ตายแล้ว
เส้นผมงอกออกจากต่อมรากผมที่อยู่ในหนังศีรษะ ในขณะที่ต่อมรากผมผลิตเซลล์ผมใหม่ เซลล์เก่าจะถูกดันออก
ผ่านทางด้านบนของผิวหนัง ผมยาวขึ้นในอัตราประมาณ 6 นิ้ว หรือ 15 เซนติเมตรต่อปี บนศีรษะของผู้ใหญ่มีเส้นผม
เฉลี่ยประมาณ 100,000 ถึง 150,000 เส้น และในแต่ละวันเส้นผมจะหลุดร่วงออกได้มากถึง 100 เส้น
รากผมแต่ละต่อมจะมีวงจรการงอกของตัวเองซึ่งอยู่ภายใต้ปัจจัยของอายุ โรค และเหตุอื่นๆ อีกมากมาย
วงจรการงอกของเส้นผมแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะเจริญเติบโต ระยะหยุดเจริญเติบโต และระยะหลุดร่วง
  • ระยะเจริญเติบโต (Anagen)
ระยะเจริญเติบโตจะคงอยู่เป็นเวลา 2-6 ปี ช่วงระยะเวลานี้ถูกกำหนดไว้แล้วโดยพันธุกรรม ยิ่งต่อมรากผมอยู่ในระยะเจริญเติบโต
นานเท่าไร เส้นผมจะยิ่งงอกได้ยาวมากเท่านั้น ผู้ที่มีระยะเจริญเติบโตของเส้นผมยาวนานจะมีผมที่งอกได้ยาวกว่าผู้ที่มีระยะ
เจริญเติบโตของเส้นผมสั้น ประมาณ 90% ของเส้นผมบนหนังศีรษะของเราจะอยู่ในระยะนี้
  • ระยะหยุดเจริญเติบโต (Catagen)
ระยะหยุดเจริญเติบโตคือระยะเปลี่ยนผ่านระหว่างระยะเจริญเติบโตและระยะหลุดร่วง ซึ่งคงอยู่เป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ เส้นผม
จะหยุดงอกและพักให้ต่อมรากผมได้ฟื้นบำรุงตัวเอง ในระหว่างระยะหยุดเจริญเติบโตต่อมรากผมจะหดตัว
ส่งผลให้เส้นผมถูกดันขึ้นด้านบน
  • ระยะหลุดร่วง (Telogen)
ระยะหลุดร่วงคือระยะพัก ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-4 เดือน เมื่อสิ้นสุดระยะพัก เส้นผมจะหลุดร่วงออกและมีผมเส้นใหม่
งอกขึ้นมาแทนที่ ต่อมรากผมกลับเข้าสู่ระยะเจริญเติบโตและเริ่มต้นวงจรการงอกใหม่ของเส้นผมอีกครั้ง
วงจรการงอกของเส้นผมทั้ง 3 ระยะนี้เกิดขึ้นพร้อมกันทั่วทั้งหนังศีรษะ ผมเส้นหนึ่งอาจอยู่ในระยะเจริญเติบโต
ในขณะที่บริเวณผมด้านข้างอยู่ในระยะพัก ซึ่งวงจรของผมเป็นสิ่งที่อธิบายว่าเหตุใดเราจึงสังเกตเห็นผมจำนวนหนึ่ง
หลุดติดออกมากับหวีทุกวัน ในขณะที่เส้นผมของเรายังคงดูหนาแน่นเต็มศีรษะอยู่
ลักษณะและปัญหาของเส้นผม
ทุกคนมีเส้นผมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นั่นเปนเพราะทุกคนล้วนมีโครงสร้าง ความหนา ลักษณะ
และปัญหาของเส้นผมที่แตกต่างกัน คุณสามารถเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลเส้นผม
ให้ตรงกับความต้องการเฉพาะได้ดังนี้
ความหนาของเส้นผม
  • ผมเส้นเล็ก
  • ผมปกติ
  • ผมเส้นใหญ่
ลักษณะ
  • ผมตรง
  • ผมลอน
  • ผมหยักศก
  • ผมหยิกขอด
ปัญหาของเส้นผม
  • ผมเสีย
  • ผมแห้ง
  • ผมผ่านการทำเคมี / ผมทำสี
  • ผมชี้ฟู
  • ผมลีบแบน
  • ผมอ่อนแอ / เส้นผมบาง
  • รังแค
นักวิทยาศาสตร์ซาทินิครวบรวมความรู้และความเข้าใจอย่างถ่องแท้ด้านเคมีของเส้นผมเพื่อพัฒนาชุดผลิตภัณฑ์ระดับโลก
ที่ตอบสนองทุกความต้องการของเส้นผมทั่วโลก เพื่อเพิ่มความงามและความมีชีวิตชีวาให้กับเส้นผมทุกประเภท
ไม่ว่าจะมีความหนา ลักษณะ หรือปัญหาแบบใด
ผลิตภัณฑ์ซาทินิคได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์เฉพาะสำหรับทุกสภาพเส้นผมของคุณ
การดูแลและปัญหาของหนังศีรษะ
หนังศีรษะมีหน้าที่มอบสภาวะแวดล้อมที่ดีให้กับต่อมรากผม ซึ่งมีอยู่บริเวณหนังศีรษะมากกว่าส่วนอื่นๆในร่างกาย
ด้านบนหนังศีรษะมีการไหลเวียนเลือด อันเนื่องมาจากมีหลอดเลือดที่นำสารอาหารมาหล่อเลี้ยงต่อมรากผมอยู่อย่างหนาแน่น
หนังศีรษะจะผลิตสารหล่อลื่นตามธรรมชาติที่เรียกว่าซีบัม (น้ำมัน) ซึ่งหลั่งออกมาจากต่อมรากผม
ซีบัมจะเคลือบหนังศีรษะและเส้นผมเพื่อหล่อลื่นและควบคุมความชื้นบริเวณหนังศีรษะ
หนังศีรษะก็ต้องการการดูแลขั้นพื้นฐานเช่นเดียวกับผิวหน้าเพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
  • ดูแลหนังศีรษะให้สะอาดด้วยการสระผมเป็นประจำเพื่อชะล้างน้ำมันส่วนเกิน เพื่อช่วยไม่ให้ต่อมรากผมอุดตัน
  • นวดหนังศีรษะในขณะสระผมด้วยแชมพู
    หรือครีมนวดผม
  • ลดการสูญเสียความชุ่มชื้นด้วยการใช้ครีมนวดผม และผลิตภัณฑ์บำรุงหนังศีรษะ
  • ปกป้องเส้นผมจากการทำร้ายของมลภาวะแวดล้อม ด้วยการสวมหมวก เพื่อปกป้องทั้งหนังศีรษะและเส้นผม
    จากการทำร้ายของรังสียูวี ลม และอุณหภูมิ
    ที่ร้อนหรือเย็นจัด
  • ลดการใช้ความร้อนจากการจัดแต่งทรงผม
    โดยการเป่าผม ด้วยความร้อนต่ำ
    หรือปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติ
SATINIQUE SCULP TONIC
ดูแลและป้องกันปัญหาผมขาดหลุดร่วง
รังแคกับหนังศีรษะแห้ง
รังแคและหนังศีรษะแห้งมักถูกเข้าใจผิดสลับกันอยู่เสมอถึงความแตกต่างระหว่างสภาวะทั้งสองของหนังศีรษะ
ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
รังแค
  • รังแค คือเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วหลุดลอกออกจากหนังศีรษะมากผิดปกติ เกิดจากเชื้อราบนหนังศีรษะ
    ที่ตอบสนองต่อการผลิตน้ำมัน (ซีบัม) มากเกินไป จึงเป็นสาเหตุให้หนังศีรษะเกิดอาการระคายเคือง
  • หนังศีรษะจึงตอบสนองต่ออาการระคายเคืองด้วยการผลัดเซลล์ผิวบนหนังศีรษะมากขึ้นและบ่อยขึ้น
    ในทุกๆ 15 วัน จากปกติทุกๆ 30 วัน
  • เซลล์ผิวหนังที่หลุดออกเป็นแผ่นขนาดใหญ่ ปรากฏให้เห็นเป็นแผ่นสีขาวหรือเทาอ่อนบนหนังศีรษะและเสื้อผ้า
หนังศีรษะแห้ง
  • หนังศีรษะแห้งเกิดขึ้นเมื่อหนังศีรษะสูญเสียความชุ่มชื้นด้วยปัจจัยต่างๆ เช่น การสระผมมากเกินไป
    ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม เช่น ความร้อน อากาศแห้ง หรือการทำลายจากรังสียูวีหรือแสงแดด
  • หนังศีรษะแห้งทำให้เกิดอาการคัน
  • หนังศีรษะแห้งมีลักษณะเป็นสะเก็ดสีขาวเล็กๆ เกาะอย่างหลวมๆ บนหนังศีรษะ
เส้นผมถูกทำร้ายได้อย่างไร
เมื่อเส้นผมอายุมากขึ้นและเผชิญกับการถูกทำร้ายจากมลภาวะทุกวัน
เกล็ดผมและเซลล์เมมเบรน คอมเพล็กซ์ (Cell membrane complex; CMC) จะค่อยๆเสื่อมลงทีละน้อย
ทำให้ผมอยู่ในสภาพที่อ่อนแอและถูกทำร้ายได้ง่าย ปัจจัยที่สามารถทำร้ายเส้นผมได้แก่ :
  • กระบวนการทางเคมี เช่น การดัดผมถาวร การทำสีผม การยืดผม เป็นต้น
  • ความร้อนจากการจัดแต่งทรงผม
  • รังสียูวี / แสงแดด
  • การรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการไม่ครบถ้วน
เส้นผมที่ถูกทำรายอาจแสดงออกให้เห็นหลายรูปแบบ เช่น ผมแห้ง เปราะหักง่าย ไม่เงางาม และแตกปลาย
เส้นผมที่ถูกทำร้ายจะสูญเสียความเงางามตามธรรมชาติ
หรือให้สัมผัสที่แห้งสาก และจัดแต่งทรงยาก
เมื่อเส้นผมถูกทำร้ายจะมีประจุลเกิดขึ้น ผมจะชี้ฟู อ่อนแอ ขาดประกายเงางามและไม่มีชีวิตชีวา ด้วยสูตรผสมเฉพาะ
เอนเนอร์จูฟTM (ENERJUVETM ) สารบำรุงประจุบวกที่มาพร้อมกับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมทุกสูตรของซาทินิค
จะช่วยฟื้นคืนผมคุณให้กลับสู่ความมีชีวิตชีวาและสุขภาพดีอีกครั้ง
เอนเนอร์จูฟจะเข้าจัดการกับสัญญาณของผมเสียหลายประการและทำงานในหลายระดับ
เพื่อดูแลให้เส้นผมสุขภาพดีและมีชีวิตชีวายิ่งกว่าที่เคย
The Making of Satinique “เอนเนอร์จูฟ” เทคโนโลยีใหม่ช่วยให้ผมสวยจากซาทินิค
Satinique Glossy Repair ฟื้นบำรุงผมเสียและผมทำสีด้วย ซาทินิค กลอสซี่ รีแพร์