แน่นอนครับ เมื่อธุรกิจเติบโตไปเรื่อยๆ ก็เริ่มเกิดปัญหาทีละเล็กทีละน้อยขึ้น ซึ่งก็มีหลากหลายองค์ประกอบในแต่ละกรณี บางกรณีก็เริ่มจากอัพไลน์ในประเทศอยากไปขยายตลาดยังต่างประเทศด้วยตัวเอง แต่ดาวน์ไลน์ในสายงานไม่อยากไปต่างประเทศต้องการทำในประเทศเท่านั้น ทีนี้เมื่ออัพไลน์ตัดสินใจไปทำธุรกิจยังต่างประเทศ ก็มีโอกาสที่จะได้เจอนักธุรกิจแอมเวย์ที่ไม่ได้อยู่ในสายงานเดียวกัน แต่รู้จักมักคุ้นกันและมีความต้องการเดียวกันคือการทำธุรกิจในต่างประเทศ เหมือนกัน

พอไปสร้างองค์กรในต่างประเทศก็ทำให้เกิดการไขว้สายงานกันเกิดขึ้นได้ โดยที่การทำธุรกิจในรูปแบบการสปอนเซอร์สากล มิได้มีกฎข้อห้ามในการไขว้สายงาน ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ก็ค่อยๆ สะสม โดยเฉพาะความไม่พึงพอใจของอัพไลน์ที่ถูกผู้อื่นมาสปอนเซอร์ดาวน์ไลน์ของตนเองให้ไปทำธุรกิจในต่างประเทศ พอทำธุรกิจกันไปเรื่อยๆ แล้ว ความห่างเหินของดาวน์ไลน์กับอัพไลน์และองค์กรปกติหรือในประเทศก็อาจเกิดขึ้นได้ บางคนก็หันไปสนิทกับอัพไลน์ที่ทำธุรกิจแอมเวย์ในต่างประเทศด้วยกันมากกว่าอัพไลน์ในสายงานในประเทศซะอีก ส่วนรายได้ก็สลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้นพอๆ กับความสัมพันธ์ในองค์กรที่สลับซับซ้อนไปมา ผมจึงอยากจะเน้นย้ำว่าหัวใจจริงๆ ของการทำสปอนเซอร์สากลนั้นคือการเปิดโอกาสให้กับธุรกิจแอมเวย์ของทุกคน ซึ่งหากทุกคนเข้าใจในประวัติศาสตร์ที่แท้จริงแล้ว คุณจะรู้ว่าเป็นช่องทางแห่งโอกาสมิใช่ช่องทางฉกฉวยโอกาส

ฉะนั้นผมจึงอยากเตือนสติเอาไว้ทั้งสองฝ่าย ฝ่ายอัพไลน์ที่ไม่สะดวกไปทำต่างประเทศ อันนี้คงต้องใจกว้างและให้โอกาสดาวน์ไลน์ได้เติบโต ฝ่ายดาวน์ไลน์ที่ไปทำต่างประเทศก็ต้องเคารพในการให้ความสำคัญกับอัพไลน์เดิมและอัพไลน์ใหม่ของคุณอย่างเท่าเทียม การนำผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ต้องคำนึงถึงกฎจรรยาบรรณและกฎหมายไว้อย่างเคร่งครัด อย่าตีความหมายเพื่อเอาประโยชน์เข้าตัว ผมจึงอยากแนะนำและเตือนในจุดตรงนี้มากกว่า เหตุการณ์วุ่นวายต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็จะลดน้อยลงทันที

ปัญหานี้ถ้าอยากให้หมดไปจริงๆ แก้ไขด้วยกฎไม่ได้ครับ แต่ผมอยากให้เข้าใจอย่างนี้ สายการสปอนเซอร์คือกระดูกสันหลังของธุรกิจแอมเวย์ ฉะนั้นสายการสปอนเซอร์จึงเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากที่สุด ต้องให้ทุกฝ่ายเข้าใจในหลักสำคัญซะก่อน ที่สำคัญคุณต้องเข้าใจถึงการเป็นอัพไลน์และดาวน์ไลน์ในการไขว้สายงานในกรณีของการทำสปอนเซอร์สากลด้วย จึงอยากให้เปิดใจให้กว้าง พร้อมให้โอกาส และต้องเชื่อมั่นในคำตัดสินของบริษัท

อันที่จริงแล้วมีกลุ่มคนจำนวนน้อยมากๆ ที่พยายามชวนดาวน์ไลน์จากสายงานอื่นให้ไปทำสปอนเซอร์สากล และมีคนอีกจำนวนมหาศาลที่ยังไม่เข้าใจในการทำสปอนเซอร์สากล อย่างแท้จริงจึงทำให้เกิดปัญหาต่างๆ เกิดขึ้น ฉะนั้นคำสอนของริชกับเจย์ที่สอนเราเอาไว้ใน วลี 10 ประโยค สามารถตอบสิ่งที่คุณกำลังกระทำได้ครับ

เราต้องย้อนกลับมามองภาพกว้างๆ มิใช่หาข้อแก้ตัวนะครับ แต่บางครั้งมีขอบเขตที่เราจะสามารถทำได้หรือไม่ได้ อย่างพื้นฐานของคนอเมริกายึดถือเสรีภาพมาก ฉะนั้นหากคุณกำลังชี้ว่าใครกำลังทำผิด คุณจะต้องมีหลักฐานผูกมัดบุคคลคนนั้นแบบชนิดที่ดิ้นไม่หลุดคุณจึงจะสามารถชี้ว่าเค้าคนนั้นผิดได้ เพราะหากมีช่องโหว่แม้แต่เพียงนิดเดียวก็อาจถูกฟ้องร้องกลับได้ทันที อันนี้เลยต้องขอให้เข้าใจในส่วนตรงนี้ด้วย

ส่วนประเทศไทยต้องขอชี้แจงว่าเราเข้าใจว่าผู้ที่ถูกละเมิดย่อมต้องการที่จะให้บริษัทจัดการ แต่เราต้องชี้แจงว่าก่อนที่จะตัดสินใดๆ จำเป็นที่เราจะต้องมีหลักฐานชัดเจนเสียก่อนถึงจะปรับผิดใครได้ ที่สำคัญเราอยู่ในธุรกิจแบบการให้โอกาส เราจึงต้องพร้อมที่จะให้โอกาสทุกคนได้แก้ไขและปรับปรุงตัว ยกเว้นเสียว่าความผิดนั้นๆ จะเป็นความผิดเด็ดขาดจริงๆ เพราะมนุษย์ย่อมมีโอกาสที่จะผิดพลาดได้ แต่การให้อภัยแค่เพียงครั้งเดียวพอ หากทำผิดครั้งที่ 2 ต้องเด็ดขาด

สำหรับคนที่สูญเสียโอกาสการให้อภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่สำหรับคนที่ฉกฉวยโอกาสการปรับปรุงตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะนี่คือธุรกิจแอมเวย์ ธุรกิจแห่งการให้โอกาส